วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ไปดำน้ำชมโลกใต้ทะเลกัน

มารู้จักการดำน้ำเพื่อการท่องเที่ยวทางทะเลกัน
   ในการท่องเที่ยวทางทะเลของไทยนั้นนอกจากที่เราจะได้ชมความงดงามของธรรมชาติ น้ำทะเลใสๆ ได้สัมผัสสายลมแสงแดดและรับอากาศบริสุทธิ์แล้ว ภายใต้ท้องทะเลนั้นยังมีความงดงามชองธรรมชาติที่ชวนให้เราค้นหาซ่อนตัวอยู่ ทั้งหมู่ปะการังรูปร่างแปลกตา ดอกไม้ทะเลสีสันสดใส เหล่าปลาน้อยใหญ่ สัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ อาจเปรียบเสมือนกับเป็นอีกโลกนึงเลยก็ว่าได้ และด้วยความสวยงาม ความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังน้ำตื้นของไทย ในการท่องเที่ยวทางทะเลกิจกรรมการดำน้ำเพื่อเที่ยวชมแหล่งปะการังจึงเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยงชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเนื้อหาจะแบ่งการดำน้ำเพื่อการท่องเที่ยวในเมืองไทยเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆตามความยาก/ง่ายในการเข้าถึง (ระดับความตื้น-ลึกของน้ำทะเลในการดำน้ำ) รวมถึงอุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้ในการดำน้ำแต่ประเภท และตัวอย่างหลักสูตรเรียนดำน้ำในเมืองไทยทั้งแบบดำน้ำอิสระโดยใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น และการดำน้ำแบบใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจใต้น้ำ  ทั้งนี้เพื่อเป็นความรู้และแรงบันดาลใจให้กับทุกๆคนที่มีความรักในทะเลของเรา


1.ว่ายน้ำเพื่อชมปะการังจากผิวน้ำ(Snorkeling)
เป็นกิจกรรมนันทนาการที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มือใหม่ สายชิว ว่ายน้ำไม่เป็น ก็ได้หมดถ้าสดชื่น เพราะเป็นกิจกรรมที่ง่ายต่อการเข้าถึง ค่าใช้จ่ายไม่มาก ความปลอดภัยสูงโดยการว่ายน้ำชมปะการังน้ำตื้นจากผิวน้ำนี้ผู้ที่ร่วมกิจกรรมจะต้องใส่เสื้อชูชีพเพื่อให้สามารถลอยตัวอยู่ผิวน้ำได้ และจะต้องใส่แว่นตาดำน้ำด้วยเพี่อให้สามารถมองเห็นใต้น้ำได้อย่างชัดเจน โดยอุปกรณ์ทั้งเสื้อชูชีพและแว่นตาดำน้ำนั้นนอกจากเป็นตัวช่วยให้ทริปดำน้ำของคุณเป็นไปด้วยความสนุกสนานแล้วที่สำคัญยังสร้างความปลอดภัยต่อผู้ใช้อุปกรณ์เองด้วย 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://reviewtrang.com/4-islands-trip-trang/#

อุปกรณ์ที่ใช้ในการว่ายน้ำชมปะการังจากผิวน้ำ
- เสื้อชูชีพ
- หน้ากากดำน้ำ
- ท่อหายใจ 
เสื้อชูชีพ(Life Jacket)
โดยทั่วไปมีอยู่หลายรูปแบบตามแต่ประโยชน์ใช้งาน ส่วนเสื้อชูชีพที่ใช้สวมลงว่ายน้ำชมปะการังนั้นแบบพยุงตัวจะเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด เพราะให้ความคล่องตัวกับผู้ใส่มากกว่าแบบอื่น ส่วนใหญ่จะใช้วัสดุภายในที่ทำจากโฟมหุ้มด้วยผ้าใยสังเคราะห์กันน้ำสามารถรับน้ำหนักได้เกินกว่า100 กิโลกรัม ซึ่งในเมืองไทยเรือที่ให้บริการนำเที่ยวจุดดำน้ำชมปะการังจำเป็นจะต้องมีเสื้อชูชีพไว้สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวทุกคนอยู่แล้ว(เป็นกฎของกรมเจ้าท่าเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว) เรือที่นำทัวร์พานักท่องเที่ยวดำน้ำชมปะการังส่วนมากจึงมักจะนิยมใช้เสื้อชูชีพแบบพยุงตัวไว้คอยให้บริการ
 

หน้ากากดำน้ำ(MASK) 
   หน้ากากดำน้ำเป็นอุปกรณ์ดำน้ำที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้ผู้ใช้มองเห็นใต้น้ำได้ชัดเจนแล้ว ยังกันไม่ให้น้ำเข้าจมูกเข้าตาระหว่างที่เราอยู่ในน้ำด้วย โดยจะขออธิบายส่วนประกอบของหน้ากากดำน้ำแยกเป็นส่วนๆเพื่อประโยชน์ในการเลือกใช้อุปกรณ์ที่สมบูรณ์และเหมาะสมกับตัวเองไว้ใช้งาน เพราะถ้าส่วนประกอบไหนชำรุดหรือไม่สมบูรณ์จะส่งผลต่อการใช้งานได้
เลนส์หน้ากาก หน้ากากดำน้ำส่วนใหญ่ จะใช้เลนส์ที่เป็นกระจกนิรภัย เพื่อความปลอดภัย ตัวเลนส์จะมี 2 ลักษณะคือ แบบชิ้นเดียว กับแบบแยก2ชิ้น(เว้นตรงช่วงกลาง)ซึ่งก็จะให้ทัศนะวิสัยน้อยกว่าแบบชิ้นเดียวโดยหน้ากากดำน้ำบางรุ่นออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนเลนส์ เป็นเลนส์สายตาได้ตามความต้องการของผู้ใช้ 
ขอบหน้ากาก ขอบหน้ากากจะเป็นส่วนที่ยึดตัวเลนส์กับขอบยางไว้ โดยขนาดความกว้าง ความหนาของขอบหน้ากากจะมีผลต่อทัศนะวิสัยที่นักดำน้ำจะมองเห็น คือถ้าขอบยิ่งบางก็จะเพิ่มองศาการมองเห็นได้มากขึ้นทั้งนี้ขึ้นอยู่ขนาดใบหน้าของผู้ใช้ด้วยว่าจะใช้หน้ากากหนาบางขนาดไหนแล้วจะเหมาะกับตัวผู้ใช้เอง และการใช้งานที่สุด
ขอบยาง ทำจากซิลิโคน ซึ่งทนทาน นิ่ม ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายกับผิวใบหน้า ทำให้แนบกระชับ ไม่มีรูให้อากาศรั่วออกได้
ขอบจมูก ขอบยางซิลิโคนบริเวณร่องจมูก สามารถทดสอบการใช้งานได้โดยลองสอดนิ้วเข้าไปบีบจมูกเพื่อ"*เคลียร์หู"ว่าทำได้อย่างสะดวกหรือไม่ เวลาใช้งานจริง
*การเคลียร์หู เป็นการบังคับอากาศออกจากร่างกายด้วยการปิดปาก บีบจมูก แล้วพยายามหายใจออกทางจมูก อากาศจะพยายามหาทางออก โดยไปทางหูแทน วิธีนี้ใช้เพื่อปรับความดันภายในหูเมื่อเราเดินทางผ่านระดับความสูงที่ต่างกัน เช่น ขึ้นเครื่องบิน หรือ ดำลงไปในน้ำ
สายรัดศีรษะ ตัวสายทำจากซิลิโคน ใช้เพื่อยึดหน้ากากดำน้ำเข้ากับศีรษะผู้ใช้ สามารถผ่อนสายหรือรัดให้พอดีกับขนาดศีรษะด้วยตัวล็อคสายรัด
ตัวล็อคสาย ตัวล็อคสายรัดใช้เพื่อล็อคสายซิลิโคนให้ไม่ให้คลายตัวจากขนาดที่ปรับไว้ให้พอดีกับศีรษะของผู้ใช้ โดยและวิธีผ่อนสายให้คลายและรัดสายให้แน่น จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ยี่ห้อ โดยตัวล็อคส่วนใหญ่จะใช้แบบล็อคสายอัตโนมัติ จะคลายล็อคเพื่อปรับสายรัดได้ไม่ยากเพียงแค่ง้างตัวล๊อคออกก็สามารถปรับสายได้ตามความต้องการ
วิธีการเลือก และใช้งานหน้ากากดำน้ำ 
การเลือกหน้ากากดำน้ำนั้นหน้ากากควรต้องพอดีกับใบหน้าและไม่มีรอยฉีกขาด วิธีทดสอบว่าหน้ากากนั้นเหมาะกับหน้าเราหรือไม่ ให้เอาหน้ากากมาทาบที่หน้า เก็บเส้นผมออกจากหน้ากากให้หมดไม่ต้องรัดสายที่ศีรษะ แล้วสูดหายใจเข้า ให้ปล่อยมือออกจากหน้ากากในขณะที่ยังสูดหายใจเข้าอยู่ ถ้าหน้ากากยังติดอยู่ที่หน้าได้แสดงว่าหน้ากากนี้เราสามารถใช้ได้ก่อนลงน้ำปรับสายรัดให้พอดี ไม่แน่นไม่หลวมเกินไป ก่อนใช้งานควรทำการป้องกันการเกิดฝ้าบนกระจกหน้ากากดำน้ำไว้ก่อน (เรียกว่าการทำฟิล์ม) นั่นเป็นเพราะว่าหน้ากากของเรานั้นจะเกิดฝ้าไอน้ำจับที่กระจกหลังจากที่เราใช้งานไปสักพัก เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่างกันของร่างกายเรากับอุณหภูมิน้ำทะเล โดยวัสดุในการทำฟิล์มนั้นสามารถใช้สบู่เหลว ยาสระผม น้ำยาล้างจาน หรือยาสีฟันก็ได้ หรือถ้าหาอะไรไม่ได้จริงๆก็สามารถใช้ของใกล้เราตัวสุด คือน้ำลายเรานี้แหละใช้แทนสบู่เหลวได้ วิธีทำฟิล์มขั้นตอนแรกเลยก็คือล้างหน้ากากให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าโดยเฉพาะกระจกด้านใน นำวัสดุในการทำฟิล์มมาหยดลงไปบนกระจกทั้งสองข้างเพียงเล็กน้อย ใช้มือถูน้ำยาบนกระจกวนไปมาจนทั่วทิ้งให้แห้งสักครู่ ก่อนที่จะลงดำน้ำก็ให้นำหน้ากากมาจุ่มน้ำ (น้ำจืดหรือน้ำทะเลก็ได้) เพื่อล้างน้ำยาส่วนเกินออก เพียงเท่านี้กระจกก็จะใสตลอดระยะเวลาในการดำน้ำ เมื่อเราลงน้ำแล้วมีโอกาสที่น้ำจะเข้าหน้ากากได้ตลอดเวลาด้วยจากหลายๆสาเหตุ จึงควรที่จะรู้ถึงวิธีเอาน้ำออกจากหน้ากากด้วยเพื่อให้ไม่เสียจังหวะในการชมโลกใต้ทะเล วิธีการคือถ้าเงยหน้าอยู่เหนือน้ำอยู่แล้วก็เพียงจับหน้ากากให้เผยอขึ้นเล็กน้อยเพื่อเทน้ำออก แต่ถ้าในกรณีกำลังก้มหน้าอยู่ในน้ำหรือดำน้ำเพื่อชมสิ่งต่างๆอยู่แล้วเกิดน้ำเข้าหน้ากาก วิธีจะเอาน้ำออกจากหน้ากากตอนอยู่ใต้น้ำ(เคลียร์หน้ากาก)ทำได้โดยใช้มือกดหน้ากากบริเวณด้านบนให้แนบกับหน้าผากแล้วพ่นลมหายใจออกทางจมูก น้ำในหน้ากากจะถูกดันออกทางด้านตรงข้ามกับที่เรากดหน้ากากไว้ทำจนน้ำถูกดันออกจากหน้ากากจนหมด

ท่อหายใจ (Snorkel)
มีอยู่ 2 แบบ ท่อแบบมีวาล์ว จะไล่น้ำออกจากท่อได้ง่าย ส่วนท่อแบบไม่มีวาล์วเราสามารถไล่น้ำออกจากท่อได้โดยการพ่นน้ำให้ออกทางปลายท่อ ก่อนลงน้ำควรปรับท่อกับหน้ากากให้พอดีกันกับหน้าเพื่อเวลาคาดหน้ากากแล้วปลายท่อฝั่งที่เป็นเขี้ยวยางสำหรับคาบท่อ (Mouth Piece)จะได้อยู่ตรงปากพอดี เพราะหากไม่ปรับให้พอดีก่อน อาจทำให้น้ำเข้าท่อและสำลักน้ำได้
วิธีใช้งานท่อหายใจนี้เราต้องคาบท่อ(กัดบริเวณเขี้ยวยางพอแค่ให้ท่อไม่หลุดจากปากแล้วอบท่อให้ตัวกันน้ำที่ติดกับเขี้ยวยางให้อยู่ระหว่างเหงือกเพื่อไม่ให้น้ำเข้าท่อระหว่างที่เราหายใจอยู่ในน้ำ)หายใจทางปากผ่านท่อในขณะที่หน้าเราจมอยู่ใต้น้ำเพื่อให้ยังหายใจอยู่ได้ในขณะที่ชมโลกใต้ทะเล โดยท่อหายใจจะยึดอยู่กับสายรัดศีรษะของหน้ากากดำน้ำ มีปลายของท่อส่วนหนึ่งจะอยู่บนผิวน้ำ และเราต้องคาบปลายอีกด้านหนึ่งไว้เพื่อสูดอากาศที่อยู่เหนือผิวน้ำนั้นมาใช้ในการหายใจโดยที่เราไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาจากน้ำ

   จากที่ได้อธิบายเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการว่ายน้ำเพื่อชมปะการังจากผิวน้ำมาแล้วนั้น ก็เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจอยากทดลองหาประสบการณ์ว่ายน้ำชมปะการังด้วยตัวเอง หรือท่านที่เคยท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังมาก่อนแล้วเที่ยวทะเลครั้งหน้าจะได้มีความรู้เบื้องต้นในการตรวจเช็คอุปกรณ์ด้วยตัวเองได้ก่อนจะใช้งาน และใช้อุปกรณ์ได้อย่างถูกวิธีไม่ต้องอายเพื่อนร่วมทางว่าใช้อุปกรณ์ผิดๆถูกๆ เพราะการว่ายน้ำชมปะการังด้วยวิธีนี้ไม่มีที่ไหนเปิดสอน จะมีก็แต่ถ้าคุณซื้อทัวร์ไปดำน้ำชมปะการังเค้าก็จะมีไกด์บนเรือคอยสอนวิธีใช้งานอุปกรณ์แบบคร่าวๆให้เท่านั้นเพราะด้วยเวลาที่จำกัด จะดีกว่าไหมถ้าคุณรู้วิธีใช้งานอุปกรณ์อยู่ก่อนแล้วเมื่อถึงเวลาต้องลงน้ำคุณก็จะสามารถหยิบอุปกรณ์มาใช้ได้เลย แถมยังช่วยแนะนำวิธีใช้งานอุปกรณ์ที่ถูกต้องให้เพื่อนร่วมทางได้อีกด้วย ไม่ต้องเสียเวลามาลองผิดลองถูก เรียกว่ากว่าจะใช้อุปกรณ์ดำน้ำเป็นเรือก็กลับถึงฝั่งพอดี

   ถึงตรงนี้แล้วผู้เขียนจะขอแนะนำแหล่งดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นสวยๆในเมืองไทยเรียกน้ำย่อยหน่อยนะครับ ด้วยบ้านเรามีจุดท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งชมปะการังน้ำตื้นอยู่มากมายหลายแห่ง โดยผู้เขียนขอยกตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำขึ้นชื่อของแต่ละภูมิภาคมาซัก 5 เส้นทางนะครับไว้เผื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวทะเลครั้งต่อไปของคุณ

1.โปรแกรมท่องเที่ยว ทัวร์สิมิลัน - พังงา เรือซีสตาร์
07.00 น.

ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน (ไปเช้า-เย็นกลับ)
รับท่านจากโรงแรม ไปสำนักงานออฟฟิศซีสตาร์

08.30 น.

พบกันที่ออฟฟิศซีสตาร์ เพื่อเช็คอินพร้อมรับอุปกรณ์ดำน้ำ และรับประทาน ของว่างและ
เครื่องดื่ม (ชา/กาแฟ/โอวัลติน)

09.00 น.

เดินทางออกจากท่าเรือส่วนตัวซีสตาร์ ทับละมุ โดยเรือเร็ว (Seed Boat)

10.45 น.

ดำน้ำ ชมฝูงปลา และปะการังหลากสีสันอันอุดมสมบูรณ์ที่บริเวณเกาะ 5 และเกาะ 6

11.00 น.

พักผ่อนที่ชายหาดที่ขาวบริสุทธ์บนเกาะเมี่ยง (เกาะ 4)

12.00 น.

รับประทานอาหารกลางวันสุดแสนอร่อย บนเกาะเมี่ยง (เกาะ 4)

13.00 น.

เดินทางออกจากเกาะ 4 ไปยังเกาะ 9 (เกาะบางู) จุดที่ 3 เล่นน้ำดูปลา และปะการัง กับเกาะที่ได้ขนานนามว่ามีขนาดใหญ่ที่สวยงาม และเต่าทะเลที่ว่ายน้ำเล่นกับท่าน

14.00 น.

เดินทางออกจากเกาะ 9 ไปยังเกาะ 8 (เกาะสิมิลัน) จุดที่ 4 เล่นน้ำดูปลา และปะการัง บริเวณหน้าหาดชมทัศนียภาพชายหาดอ่าวเกือก ชมสัญลักษณ์ของหมู่เกาะสิมิลัน "หินเรือใบ" เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเกาะสิมิลันได้โดยรอบ

15.00 น.

เดินทางออกจากเกาะ 8 มุ่งหน้าสู่ท่าเรือทับละมุ

16.30 น.

เดินทางกลับมายังท่าเรือ พร้อมนำท่านส่งกลับยังโรงแรมที่พักโดยสวัสดิ์ภาพ

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก http://www.hotelsthailand.com


2.โปรแกรมท่องเที่ยว ทริปหมู่เกาะพีพี-อ่าวมาหยา-เกาะไผ่
07.50 น.

รับท่านจากโรงแรม ไปยังท่าเรือ

08.30 น.

ลงเรือ Speed Boat ปลอดภัยด้วยเสื้อชูชีพ เดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะพีพี 
(ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) บนเรือบริการ น้ำดื่มเย็น ๆ

09.30 น.

นำท่านเที่ยวรอบเกาะพีพีเล เกาะหินปูนที่มีความสวยงาม นำท่านเที่ยวชมอ่าวมาหยา สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach เชิญท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและเล่นน้ำอ่าวโล๊ะซามะ นำท่านดำน้ำ 
ดูปะการังณ จุดนี้ท่านสามารถชมปลาตัวโตได้หลากหลายชนิด ปะการังที่สวยงามและดอกไม้ทะเล 
ปลาการ์ตูนมากมาย 
อ่าวปิเละ ชมทะเลใน (Lagoon) พบกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต โอบล้อมผาหินปูนอันสูงชัน 
ถ้ำไวกิ้ง สถานที่เก็บรังนกนางแอ่น

12.00 น.

นำท่านขึ้น เกาะพีพีดอน จุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวของหมู่เกาะพีพี พร้อมบริการอาหารกลางวันแบบเซ็ทโต๊ะ ณ ห้องอาหารพีพี ปริ๊นเซส รีสอร์ท หลังอาหารเชิยทุกท่านเดิน เล่น เที่ยวชมวิถีชีวิตชาวเกาะพีพี ตามอัธยาศัย

14.00 น.

นำท่านลงเรือ Speed Boat นำท่านสู่ อ่าวรันตี หรือ หินกลาง (ต้องขึ้นอยู่กับสภาอากาศในขณะนั้น) 
จุดดำน้ำที่มีปะการังที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ และฝูงปลานานาชนิดที่สวยงาม

15.00 น.

นำท่านสู่ เกาะไม้ไผ่ เกาะที่สวยที่สุดของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา– หมู่เกาะพีพี ซึ่งความ
สวยงามของเกาะนี้ ททท.ตั้งฉายาว่า ดงปะการังแสนไร่ เชิญทุกท่านพักผ่อนและเล่นน้ำตามอัธยาศัย 
สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่ท่าเรือ

17.00 น.

เดินทางถึงท่าเรือ และนำท่านกลับสู่ที่พัก โดยสวัสดิ์ภาพ

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก http://www.hotelsthailand.com


3.โปรแกรมท่องเที่ยว ทริปเกาะเต่า เกาะนางยวน โดยเรือเร็ว-เกาะสมุย

07.00 น.

รถตู้ VIP รับท่านจากโรงแรมที่พักเดินทางสู่ท่าเทียบเรือบางรักษ์ (เกาะสมุย)

08.00 น.

ออกจากท่าเทียบเรือบางรักษ์ (เกาะสมุย) สู่เกาะเต่า มีชา, กาแฟและของว่างบริการบนเรือในช่วงเช้า

10.00 น.

ถึงท่าเรือแม่หาด (เกาะเต่า) และนำท่านสู่เรือเล็ก เพื่อเดินทางไปเกาะนางยวน

10.20 น.

เรือเล็กเดินทางถึงเกาะนางยวน นำท่านขึ้นจุดชมวิว พักผ่อนริมหาด สนุกสนามกับการดำน้ำ ชมปะการังที่สวยงาม

12.30 น.

นำท่านกลับขึ้นเรือ อิ่มอร่อยกับอาหารมื้อกลางวันแบบ บุฟเฟ่ต์บนเรือ และเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเกาะเต่า ในระหว่างเดินทางไปยังอ่าวม่วงหรืออ่าวกล้วยเถื่อน หรือหาดทรายรี

13.00 น.

เรือเดินทางถึงอ่าวม่วง หรืออ่าวกล้วยเถื่อน ตื่นตากับฝูงปลาน้อยใหญ่และดำน้ำ ชมความงามของปะการัง

14.30 น.

นำท่านกลับขึ้นเรือ รับประทานอาหารว่าง (ชามะนาว, เค้กกล้วยหอม) บนเรือ และเดินทางกลับท่าเทียบเรือแม่หาด (เกาะเต่า)

15.00 น.

เดินทางออกจากท่าเทียบเรือแม่หาด (เกาะเต่า) กลับสู่เกาะสมุย

17.00 น.

เรือเดินทางถึงท่าเทียบเรือบางรักษ์ (เกาะสมุย) รถตู้ VIP ส่งท่านกลับสู่ที่พักโดยสวัสดิ์ภาพ

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก http://www.hotelsthailand.com


4.โปรแกรมท่องเที่ยว ทริปเกาะช้าง จ.ตราดดำน้ำดูปะการัง 4 เกาะ โดยเรือไม้ลำใหญ่
08.00 น.

รถเริ่มรับทุกท่านจากที่พักสู่ท่าเรือบางเบ้า (เริ่มต้นที่หาดทรายขาว)

09.00 น.

เรือออกจากเกาะช้างมุ่งสู่หมู่เกาะรัง

10.30 น.

เดินทางถึงจุดหมายแรกที่ เกาะยักษ์ใหญ่ ลงดำน้ำดูปะการัง และปลาทะเลแบบใกล้ชิด (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม) 
เกาะนี้มีปะการังเขากวางเยอะเป็นพิเศษ รวมทั้งระบบนิเวศน์ทางทะเลยังสมบูรณ์อยู่มาก

12.00 น.

ถึง เกาะรัง สัมผัสโลกที่แตกต่าง ของเหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล อ่าวไทยอย่างจุใจ และรับประทานอาหารกลางวันที่นี่ 
ท่านสามารถเล่นน้ำ หรือเดินเล่นตามชายหาดก็ได้ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม)

13.00 น

เดินทางต่อสู่ เกาะยักษ์เล็ก ความทรงจำดีๆ มีให้จดจำมากมายที่นี่ ชื่นชมความงดงามของดอกไม้ทะเล พร้อมทั้งให้อาหารปลาทะเลตัวน้อย เติมพลังอีกนิดด้วยของว่างที่เรือจัดเตรียมไว้ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม)

15.00 น.

ถึง เกาะหวาย ดำดูปะการังจาก ด้านหน้าของหาดทรายสวย หรือเดินทอดอารมณ์บนชายหาดสวยๆ ก็ตามใจคุณ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม).

16.00 น

ขึ้นเรือ เดินทางกลับเกาะช้าง

17.00 น

ถึงเกาะช้างพร้อมกับความทรงจำดีๆ ส่งทุกท่านกลับที่พักโดยสวัสดิ์ภาพ

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก http://www.hotelsthailand.com


5.โปรแกรมท่องเที่ยว ทริปเกาะทะลุ ดำน้ำดูปะการัง
06.30 น.

ออกเดินทางจากหัวหิน โดยรถมินิบัส

09.30 น.

ถึงที่พัก Banmapraw Resort Harbor

10.00 น.

ออกเดินทางไปยังเกาะทะลุโดยเรือเร็ว (ประมาณ 20 นาที)

10.20 น.

เดินทางถึงเกาะทะลุเล่นน้ำ ดำน้ำ ว่ายน้ำตามอัธยาศัย

12.00 น.

พักรับประทานอาหารกลางวันบนเกาะ แบบบุฟเฟ่ต์อาหารไทยและยุโรป

13.00 น.

พักผ่อนตามอัธยาศัยบนชายหาด อาบแดด เล่นน้ำ นอนชายหาดหรือเดินเล่น

14.30 น.

ออกเดินทางจากเกาะทะลุ มุ่งสู่ที่พัก เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

18.00 น.

เดินทางกลับ ส่งท่านยังโรงแรมที่พักโดยสวัสดิ์ภาพ

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก http://www.hotelsthailand.com


2. ดำน้ำอิสระโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจใต้น้ำ(Freediving)
   เป็นการดำน้ำโดยใช้อุปกรณ์ช่วยเพียงหน้ากากดำน้ำ และตีนกบหรือฟิน เพื่อให้ผู้ที่ทำกิจกรรมมีความคล่องตัวที่สุดเวลาลงน้ำ โดยในกิจกรรมการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่งนี้ "เหมาะกับผู้ที่ว่ายน้ำเป็นแล้ว" และมีความชำนาญในการใช้หน้ากากดำน้ำ กับฟินได้ในระดับหนึ่ง เพราะหากใช้อุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่ชำนาญอาจเป็นอุปสรรคในการดำน้ำ และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ดำน้ำอีกด้วย เช่นการสำลักน้ำหากไม่รู้วิธีเอาน้ำออกจากท่อช่วยหายใจ เป็นตะคริวที่ส่วนน่อง หรือขาได้ง่ายๆหากไม่คุ้นเคยกับการใช้ฟินในการว่ายน้ำ เพราะการใส่ฟินถึงจะช่วยเพิ่มกำลัง และความเร็วในการว่ายน้ำ แต่เราก็จะต้องใช้แรงขาในการตีน้ำมากกว่าในการว่ายน้ำโดยไม่ใส่ฟินด้วยเช่นกัน เป็นต้น
การฟรีไดฟ์วิ่งในการกลั้นหายใจขณะดำน้ำหรือว่ายน้ำ นับเป็นทักษะที่มีความจำเป็นต่อกิจกรรมเป็นอย่างมาก เพราะหาก
ดำน้ำได้ยิ่งนานเท่าไหร่ เราก็สามารถลงไปสัมผัสก็โลกใต้ท้องทะเลได้นานเท่านั้น ทั้งนี้ฟรีไดฟ์วิ่งนอกจากจะเป็นกิจกรรมทางนันทนาการแล้ว ในต่างประเทศยังจัดให้มีการแข่งขันเป็นกีฬาอีกด้วย
   *ข้อแนะนำสำหรับนักฟรีไดฟ์วิ่งมือใหม่"เพื่อความปลอดภัย"ในการลงดำน้ำควรมีเพื่อนหรือคู่บัดดี้ลงดำน้ำด้วยทุกครั้ง กรณีเกิดมีเหตุฉุกเฉินจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ทันท่วงที
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/709758

อุปกรณ์ที่ใช้ในการดำนำ้แบบฟรีไดฟ์วิ่ง
- หน้ากากดำน้ำ
- ท่อหายใจ
- ตีนกบหรือฟิน
ตีนกบหรือฟิน(Fin)
   ตีนกบหรือฟิน(Fin)ที่หมายถึงครีบ ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวช่วยของมนุษย์ในการว่ายน้ำ หลักๆเราจะแบ่งประเภทฟินได้ ตามรูปแบบของส่วนด้านท้ายของฟิน(ตรงบริเวณส้นเท้า)ว่าเป็น แบบเปิดส้น หรือแบบมีส้น และแบ่งได้ตามลักษณะรูปร่างของใบฟินซึ่งมีหลากหลายรูปแบบตามแต่ประโยชน์ใช้งาน โดยจะขอยกตัวอย่างเฉพาะฟินแบบที่นิยมใช้กับการฟรีไดฟ์วิ่ง พร้อม"ข้อเด่น ข้อด้อย"ของฟินในแต่ละแบบ เพื่อให้สามรถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม
ประเภทของฟิน
แบ่งตามลักษณะส่วนส้นของฟิน(บริเวณส่วนส้นเท้า)มี 2 แบบคือ
1.แบบเปิดส้น(Open heel Fins)คือฟินที่มีช่องสอดเท้าเพียงครึ่งเดียว และมีสายรัดตรงที่ส้นเท้า สามารถปรับระยะเท้าได้อย่างสะดวก ถอดเข้าออกได้ง่าย แต่ก็ต้องสวมบูทก่อนใส่ฟินด้วย  

ข้อเด่น ใส่เข้า ถอดออกง่าย เพียงสวมฟินแล้วดึงสายรัดให้แน่น หรือเพียงแค่ปลดล็อคก็สามารถถอดออกได้เลยการใส่บูทจะช่วยปกป้องเท้าและให้ความอบอุ่นแก่เท้าในขณะดำน้ำด้วย
ข้อด้อย น้ำหนักมากกว่าแบบมีส้น เนื่องจากมีส่วนที่หุ้มเท้าที่ใช้ล็อคสายรัด และรวมถึงน้ำหนักบูทอีกชิ้น ทำให้ต้องใช้แรงมากกว่า
2.แบบมีส้น(Full foot Fins)คือฟินที่มีช่องสำหรับสอดเท้าเข้าไปได้พอดี โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดเพิ่ม
ข้อเด่น น้ำหนักเบา กระชับกับเท้า ทำให้มีประสิทธิภาพในการถ่ายเทแรงสู่ฟินสูง ช่วยประหยัดแรง
ข้อด้อย สวมเข้า ถอดออกยากกว่าแบบเปิดส้น

แบ่งตามลักษณะของใบฟิน โดยใบฟินแบบที่นิยมใช้กับการฟรีไดฟ์วิ่งมีอยู่ 3 แบบคือ

1.ฟินใบแยก(Split Fins)ฟินจะถูกออกแบบให้ใบแยกเป็น 2แฉก เพื่อช่วยทุ่นแรงเวลาตีขาให้ต้านน้ำน้อยลง

2.ฟินใบเต็ม(Paddle Fins)เป็นใบฟินแบบดั้งเดิมได้รับความนิยมสูง มีรูปร่างลักษณะคล้ายใบพาย

3.ฟินใบยาว(Long blade Fins)ใบฟินชนิดนี้จะคล้ายฟินใบเต็มแต่จะมีความยาวมากกว่าเป็นเท่าตัว เพื่อช่วยเพิ่มแรงเวลาตีขาให้ไปได้ไกลและเร็วขึ้น

   ทั้งนี้ในการเลือกฟินไว้ใช้งาน สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่รูปร่างหน้าตาหรือคุณลักษณะใดๆของฟิน แต่อยู่ที่ตัวผู้ใช้เองต่างหาก ว่าจะเลือกใช้ฟินแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับตัวเองและได้ประโยชน์ใช้งานมากที่สุด

เพิ่มทักษะและประสบการณ์ด้วยการเรียน
   ประโยชน์ของการเรียนดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง สำหรับมือใหม่และผู้ที่มีความชื่นชอบหลงใหลในการดำน้ำชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเล หากต้องการดำน้ำแบบฟรีไดวิ่งได้ถูกวิธี มีความปลอดภัยจะต้องทำอย่างไร? คำตอบคือต้องไปเรียน เพื่อให้รู้ทั้งในเรื่องทฤษฏีและได้ปฏิบัติจริงให้ได้สร้างความคุ้นเคยเพิ่มทักษะในการใช้อุปกรณ์ดำน้ำกับการดำน้ำจริง สามารถดำน้ำได้นานขึ้นและดำน้ำได้ลึกลงมากขึ้นอย่างปลอดภัย ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆที่รักในสิ่งเดียวกัน หลังเรียนจนจบคอร์สผู้เรียนจะได้รับใบรับรองการผ่านหลักสูตรฟรีไดฟ์วิ่ง(ตามหลักสูตรที่ได้เรียน)เป็นใบการันตีเพื่อใช้ในการเรียนระดับที่สูงขึ้นต่อไป
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก https://tcompanion.com/TravellersCompanion/styleandstuffcontent/26
   ในประเทศไทยมีเปิดสอนฟรีไดฟ์วิ่งอยู่หลายแห่ง โดยส่วนมากแล้วจะใช้หลักสูตรของสถาบันสอนดำน้ำPADI,SSI เพราะเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล สถานที่เปิดสอนก็มีหลากหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาจารย์ผู้สอนก็มีทั้งอาจารย์คนไทย และอาจารย์ชาวต่างชาติให้เลือกเรียน โดยผู้เขียนจะขอนำตัวอย่างหลักสูตรเรียนฟรีไดฟ์วิ่งที่มีการเปิดสอนกันอยู่มาให้ลองศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดกันนะครับ 

ตัวอย่างคอร์สเรียนดำน้ำฟรีไดฟ์วิ่ง
Course เรียน SSI Freediving Level 1

   ในคอร์ส เรียน SSI freediving level 1 คุณจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะฟรีไดฟ์ได้ลึกมากกว่า 10 เมตร และ สามารถกลั้นหายใจได้นานกว่า 1:30 นาที และฝึกฝนการหายใจที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการหายใจด้วยกระบังลม และการสูดหายใจเข้าลึกอย่างที่ไม่เคยมาก่อน
จุดประสงค์ของคอร์สนี้เพื่อสอนให้คุณรู้เกี่ยวกับการฟรีไดฟ์ประเภทต่างๆ เช่น Static ,Dynamic ,Constant weight และ Free Immersion กฎเกณฑ์การปฏิบัติ เพื่อการฟรีไดฟ์อย่างปลอดภัย ครูผู้สอนจะแชร์ประสบการณ์และถ่ายทอดความรู้ให้กับคุณในการเรียน 2 วันเต็ม

Course เรียน SSI freediving level 1
*** ไม่จำเป็นต้องเรียน Basic freediving ก่อน


ผู้ที่ผ่าน course นี้จะสามารถ : กลั้นหายใจแบบ static ได้มากกว่า 1.30 นาที – ฟรีไดฟ์ลึกตั้งแต่ 10-20 เมตร

หลักสูตร 3 วัน (ทฤษฏี+ฝึกในสระลึก 5 เมตร+ ออกสอบภาคทะเล) สามารถเลือกวันเรียนได้ เวลา 10.00 – 17.30
อายุ 12 ปีขึ้นไป. 


เหมาะสำหรับผู้ที่ : ชอบเที่ยวทะเล ต้องการเรียนดำน้ำตัวเปล่าโดยไม่ต้องใช้ชูชีพ ต้องการฝึกฝนการดำน้ำเเบบฟรีไดฟ์วิ่งบ่อยๆ เพื่อให้กลั้นหายใจนาน เรียนรู้ เทคนิกในการ freediving ดำน้ำได้ลึก 10 – 20 เมตร


สิ่งคุณจะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ
อุปกรณ์ freediving : วิธีการเลือกเเละใช้อุปกรณ์ Freediving (Mask, Snorkel และ Fins ฯลฯ)
Breathing technique & Exercise
กระบวนการทำงานของร่างกายกับการดำน้ำแบบ Freediving.
วิธีการหายใจเพื่อการกลั้นหายใจ (Breath up, Breath Hold and Recovery Breathing)
การเตรียมตัวและความพร้อมก่อนดำน้ำ
Static technique (Mental toughness ,etc)
Dynamic technique (ฺBuoyancy setup , etc)
Free immersion
Constant Weight
การปรับความดันในหูเวลาดำน้ำลึกมากกว่า 10 เมตร (Pressure equalization)
วิธีดำมุดน้ำ (Duck dive)
ระบบความปลอดภัยในการดำน้ำแบบฟรีไดร์วิ่ง (Buddy system)
การฝึกช่วยชีวิตคนหมดสติขณะดำน้ำ (rescue)
การฝึกฝนและทดสอบทักษะการดำน้ำในทะเลเปิด (open water) ที่ระดับความลึกไม่เกิน 20 เมตร
>>ออกสอบภาคทะเลชลบุรี

.ราคา 7,900 บาท
>>ราคานี้รวมค่าเรียน ค่าลงสระ ค่าอุปกรณ์ freediving ค่าสอบ ค่าเรือ ค่าบัตรดิจิตัล SSI>>ราคานี้ไม่รวมค่าเดินทาง / ที่พัก / ค่าอาหาร

สถานที่เรียน
สระว่ายน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต (Aquatic sport center)

ขอขอบคุณข้อมูลคอร์สเรียน SSI freediving level 1 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://freedivingnow.com/course-freediving/course-ssi-freediving-level-1/

3.การดำน้ำโดยใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ(SCUBA)
การดำน้ำสกูบาหรือการดำน้ำลึกโดยใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจใต้น้ำ นักดำน้ำจะต้องใส่อุปกรณ์ติดกับตัวถังอากาศลงไปใต้น้ำด้วย ซึ่งจะทำให้นักดำน้ำมีอากาศที่สามารถใช้หายใจอยู่ใต้น้ำได้นานจนกว่าอากาศในถังจะหมด คำว่า scuba ย่อมาจาก "self-contained underwater breathing apparatus" หมายถึงเครื่องมือที่ใช้สำหรับช่วยให้หายใจในขณะอยู่ใต้น้ำเป็นการเฉพาะตัว การดำน้ำแบบสกูบา จะต้องผ่านการเรียนทั้งทฤษฎีและปฎิบัติจนจบหลักสูตรอย่างน้อยสุดคือระดับOpen water(ระดับเริ่มต้น)ก่อน เพราะการจะดำน้ำแบบสกูบาได้จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เรื่องกฎความปลอดภัยในการดำน้ำ การใช้อุปกรณ์ การช่วยเหลือตัวเองและบัดดี้ในขณะที่อยู่ใต้น้ำ การสื่อสารภาษามือใต้น้ำและอื่นๆ เพื่อให้ได้ใบรับรองว่าคุณสามารถดำน้ำได้จริง แล้วคุณก็จะสามารถนำใบรับรองนี้ไปแสดงเพื่อขอซื้อทริปดำน้ำได้ทุกแห่งทั่วโลก แตกต่างจากการดำน้ำบนผิวน้ำอย่างสน็อคเกอริ่งหรือฟรีไดฟ์วิ่งที่ไม่ต้องผ่านการฝึกฝนอะไรมากนักก็สามารถดำได้ทันที

อุปกรณ์ที่ใช้ในการดำน้ำแบบ Scuba
- หน้ากาก
- ตีนกบหรือฟิน
- ชุดดำน้ำ (Wetsuit)
ตัวปรับแรงดัน(Regulator)เพื่อใช้ในการหายใจใต้น้ำ
เสื้อสำหรับปรับการลอย จมในการดำน้ำ BCD (Buoyancy Control Device) 
- ถังออกซิเจน
- เข็มขัดตะกั่ว
   สถาบันสอนดำน้ำที่เปิดสอนกันอยู่ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะใช้หลักสูตรการสอนที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายและเป็นสากล จะมีหลักสูตรของ2สถาบันคือ ของPADIและNAUI โดยจะขอนำหลักสูตรของทั้ง2สถาบันนี้มาแสดงเพื่อให้ได้เห็นภาพว่าหลักสูตรของแต่ละสถาบันเป็นอย่างไรเค้าจะสอนอะไรเราบ้าง และเพื่อที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ได้เพิ่มศักยภาพพัฒนาตัวเอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ padi
PADI เป็นคำย่อมาจากคำเต็มว่า Professional Association of Diving Instructors เป็นองค์กรที่ดำเนินธุระกิจเกี่ยวกับการสอนดำน้ำ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Rancho Santa Margarita ในมลรัฐ California ประเทศ สหรัฐอเมริกา เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1966 โดย Ralph Erickson และ John Cronin มีจุดมุ่งหมายที่จะเผยแพร่การดำน้ำไปสู่สาธารณะชน รักษามาตราฐานในการสอนดำน้ำ คิดค้นหลักสูตรใหม่ๆในการดำน้ำ ผลิตอุปกรณ์ สื่อการสอน และตำราในหลักสูตรดำน้ำ ชักจูงให้นักดำน้ำ สนใจ ศึกษาหาความรู้ในการดำน้ำต่อไป ฯลฯ หลักสูตรของ PADI เป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมสูงในขณะนี้ เนื่องจากใช้เวลาในการเรียนสั้น ทั้งในภาคทฤษฏีและปฎิบัติ สำหรับหลักสูตรหลักในการดำน้ำนั้นสามารถไล่เรียงได้ดังนี้:



NAUI เป็นคำย่อมาจากคำเต็มว่า The National Association Of Underwater Instructor เป็นองค์กรทางการศึกษาที่ไม่มุ่งหากำไร สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Tampa มลรัฐ Florida ประเทศ สหรัฐอเมริกา บริหารงานโดยคณะกรรมการบริหารซึ่งได้รับเลือกจากสมาชิกเข้าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตามระยะเวลาที่กำหนด เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1950?s โดยใช้ชื่อว่า National Diving Patrol และเปลี่ยนชื่อมาเป็น NAUI เมื่อปี ค.ศ. 1959 จนถึงปัจจุบัน NAUI มีจุดมุ่งหมายที่จะเผยแพร่และส่งเสริมกิจกรรมดำน้ำออกสู่สาธารณะชน โดยมุ่งเน้นทางด้าน วิชาการ คุณภาพ และความปลอดภัย ส่งเสริมในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมใต้ทะเล สนับสนุนการศึกษา และค้นคว้าเกี่ยวกับการดำน้ำ และท้องทะเล ให้ความสำคัญในการฝึกสอนนักดำน้ำให้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมใต้ทะเล และสามารถดำน้ำได้อย่างปลอดภัย
NAUI Scuba Diver Course – update!!
NAUI Advanced Scuba Diver Course – update!!
First Aid & CPR
DAN Oxygen Provider Course
NAUI Scuba Rescue Diver Course
NAUI Master Scuba Diver Course
NAUI Divemaster Course – update!!
NAUI Assistant Instructor Course
NAUI Instructor Training Program ( NAUI ITP )

ขอขอบคุณข้อมูล PADI,NAUI สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sporttime.co.th/new/


“ใต้ท้องทะเลนั้นอาจเปรียบได้เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง เพราะเพียงแค่คุณก้มหน้ามองลงไปใต้ท้องน้ำคุณก็จะได้เห็นอีกโลกที่อยู่คู่ขนานกัน รอให้เราได้ไปสัมผัสและเยี่ยมเยือน”




2 ความคิดเห็น:

  1. เป็นกำลังใจให้นะครับ เนื้อหาแน่นพร้อมลุยดำน้ำกันเลยครับ

    ตอบลบ

นั่งรถไฟไปห้วยยาง กางเต้นท์นอนเล่นหาดนวกร (Day2) พร้อมสรุปต่าใช้จ่าย

สวัสดีเช้าวันใหม่กับหาดนวกร    หลังเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วไปทานมื้อเช้ากันเลยครับที่ร้านอาหารขอ...