ลุงแบ็คแพ็ค
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตแนะนำตัวด้วยการเล่าเรื่องของตัวเองให้ได้รู้จักกันก่อนนะครับ
ผมเกิดที่ จ.ตรัง เป็นลูกชายคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 4 คน ทางบ้านฐานะปานกลาง คุณพ่อทำงานเป็นครู คุณแม่ทำงานเป็นนางพยาบาล เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ขึ้นชั้นประถม จนเรียนจบ
ป.ตรีในสาขานิเทศศาสตร์ในปี 2544 แต่ตลอดชีวิตการทำงานแทบไม่มีโอกาสทำงานในแวดวงสื่อสารมวลชนตามที่ตัวเองได้เรียนมาเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ถ้ามีสิ่งไหนผิดพลาดประการใด
ต้องกราบขออภัยครู อาจารย์ที่เคยสั่งสอนมา และท่านผู้อ่านมา ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ
ผมเริ่มทำงานครั้งแรกตั้งแต่อายุประมาณ
19 ปี ด้วยคำแนะนำจากคุณพ่อให้ลองไปทำงานทัวร์กับไกด์ท่านนึง ซึ่งผมเองได้มารู้หลังจากเริ่มงาน(ตำแหน่งเด็กเสิร์ฟผ้าเย็น)
ว่าท่านเป็นไกด์ ที่เก่งมากๆสังเกตได้จากรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของลูกทัวร์ตลอดการเดินทาง
จากการได้ทำงานกับท่านในครั้งนั้น มันทำให้ผมหลงรักในมนต์เสน่ห์ของการท่องเที่ยว
จนทำให้ผมได้ทำงานอยู่ในแวดวงการท่องเที่ยวนานร่วม 20 ปี
“ด้วยเสน่ห์ของการท่องเที่ยวที่ทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือออกเดินทางเพื่อแสวงหาความสุข”
เพราะฉะนั้น ในมุมมองของผมอาชีพนี้เป็นอาชีพที่สร้างความสุขให้กับผู้อื่น
ด้วยปัญหาด้านสุขภาพของตัวเองซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการทำงานโดยไม่ถนอมร่างกายมาเป็นเวลานาน
ทำให้ต้องหยุดบทบาทในวงการทัวร์ ไปโดยปริยาย ปัจจุบันผมช่วยงานที่บ้านเล็กๆน้อยๆครับ
เลี้ยงปลา เลี้ยงสุนัข ดูแลต้นไม้ ใช้ชีวิตแนวสโลว์ไลฟ์ (ต้องสโลว์เพราะสปีดไม่ไหว)ที่พอจะเป็นสีสันให้ชีวิตเรียบๆหน่อยก็คือ
สื่อโซเชียลมีเดียซึ่งมีอยู่วันนึง ผมเปิดหาวีดีโอในช่องยูทูปดูขำๆ ปรากฏว่าไปเจอรายการท่องเที่ยวของคุณเรย์
แมคโดนัล ตอนพาไปเที่ยวเกาะหมาก จ.ตราด ซึ่งพอดีเป็นเกาะที่ผมยังไม่เคยไป(ผมเป็นคนชอบเที่ยวทะเลอยู่แล้ว)เลยดูจนจบตอน
และตามมาด้วยตอนที่สอง สาม...จนเช้า
“ความสุข”
ใช่แล้ว!! พี่เรย์ ยังสามารถสร้างความสุข
และแรงบันดาลใจให้กับเราได้จากการบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของตัวเองเป็นวีดีโอท่องเที่ยวเกาะในทะเลไทยความยาวแค่ประมาณไม่เกิน 50 นาที แล้วตัวเรา ซึ่งมีประสบการณ์ในการเดินทางมาร่วม 20 ปี ทำไมไม่ลองนำความรู้
และเรื่องราวของการเดินทางมาเรียบเรียงและถ่ายทอดให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆได้รับรู้บ้าง“เพื่อให้ผู้ที่รักในการเดินทางเหมือนกับเรา
นำไปประยุกต์ใช้สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวของตนเองได้อย่างมีความสุขดื่มด่ำกับประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างเต็มอรรถรส”
ส่งต่อความรู้ของเราให้กับผู้อื่น ให้เค้าได้นำไปใช้สร้างความสุขให้กับตัวเอง
ครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูง จึงเป็นแนวคิดที่มาทำให้เกิดบล็อกนี้ขึ้น
ขอขอบคุณคุณเรย์ แมคโดนัล ผู้ทีสร้างแรงบันดาลใจไว้
ณ.ที่นี้ด้วยครับ
แนะนำตัวเองพอควรแล้ว ขอนำเข้าสู่เนื้อหาเลยนะครับ ที่ต้องให้ผู้อ่านได้รู้จักกับผู้เขียนก่อน เพื่อจะได้นำเข้าสู่เรื่องราวในบทนี้ ซึ่งจะว่าด้วยเรื่อง สร้างการเดินทางด้วยตัวเอง (ในสไตล์แบ็คแพ็ค) ซึ่งผมจะเปรียบเทียบแต่ละขั้นตอนเหมือนการต้มน้ำร้อนเพื่อชงกาแฟ
ทั้งนี้เราที่มีไฟในการท่องเที่ยวอยู่ในตัวกันอยู่แล้ว แต่จะเที่ยวอย่างไรเพื่อ
ให้ได้อรรถรสที่สุด คุ้มค่ากับเงิน และเวลาที่เราต้องเสียไป คำตอบคือการเตรียมตัวก่อนเดินทาง เหมือนคำที่ว่า" "รู้เขา รู้เรา เที่ยวร้อยครั้ง สนุกร้อยครั้ง "
1
เตรียมตัวหาข้อมูล (เติมฟืน)
2 วางเส้นทาง
กำหนดเวลาเดินทาง (ตั้งกาน้ำร้อน)
3 ประเมินค่าใช้จ่ายในการเดินทางล่วงหน้า
(เตรียมเมล็ดกาแฟ)
4 เตรียมตัวเดินทาง (น้ำเดือด)
5 ออกเดินทาง (ชงกาแฟ)
เก็บเกี่ยวเรื่องราว และความสุขระหว่างการเดินทาง (ละเมียดชิมกาแฟ)
6 เก็บภาพถ่ายและเรื่องราวมาแบ่งปัน
(มีพลัง สดชื่น แจ่มใส)
ทั้งนี้เนื้อหาในบางส่วนอาจมีทั้งเรื่องเก่าหรือเรื่องใหม่ที่ท่านผู้อ่านอาจทราบข้อมูลอยู่แล้ว
หากมีข้อมูลที่ขัดแย้งกัน หรือเห็นว่ามีข้อบกพร่องในส่วนไหน
รบกวนส่งข้อคิดเห็นถึงผู้เขียนด้วยนะครับจะเป็นพระคุณยิ่ง
เพราะ”ถ้าการติเป็นการติเพื่อให้ก่อเกิดคุณประโยชน์
ผมยินดีรับคำติเป็นอย่างยิ่งครับ ยังไงก็อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะครับ
ทั้งนี้ผู้เขียนมีความตั้งใจจะบอกเล่าเรื่องราวให้ทั้งผู้ไม่รู้ได้รู้ และผู้รู้แล้วจะได้รับรู้เพิ่มขึ้น
หรือเพื่อย้ำเตือนความทรงจำ เพราะบางสิ่งเล็กๆน้อยๆอาจมีส่วนสำคัญมากในการเดินทาง
“เที่ยวสนุก ประหยัด ประทับใจ
และต้องเดินทางด้วยความปลอดภัยเป็นสำคัญ”
สร้างการเดินทางด้วยตัวเอง
1
เตรียมตัวหาข้อมูล (เติมฟืน) คนเราล้วนต่างก็มีความเป็นนักเดินทางกันอยู่ในตัวแทบทุกคนอยู่แล้ว
ดูได้จากการที่ตัวเราที่เริ่มหัดคลานจนเริ่มเดิน พอเดินได้ เราก็หัดวิ่ง
เหมือนสัญชาตญาณในตัวมันเรียกร้องให้เราไปรู้โลกกว้างตั้งแต่เริ่มตั้งไข่
และด้วยสัญชาตญาณการเป็นนักเดินทางที่มีติดตัวเรามาอยู่นี้ จงใช้มันในการ สร้างความสุข เติมพลังให้กับชีวิต สร้างแรงบัลดาลใจตัวเอง
และผู้อื่น
แล้วเราจะไปเที่ยวไหนดี? อาจเป็นคำถามในใจของบางคนที่ยังไม่มีจุดหมายของการเดินทางท่องเที่ยวของตัวเอง
ซึ่งถ้าตัวเองยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี ขอแนะนำอย่างนี้นะครับ
ให้เริ่มจากจริตความชอบของตัวเองก่อน เช่น
ถ้าชอบทำบุญก็เลือกวัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก(ใช้เวลาเต็มที่)
ส่วนสถานที่เที่ยวอื่นๆถือเป็นส่วนรอง(ใช้เวลาตามความเหมาะสม)
โดยอาจหาไอเดียในการสร้างโปรแกรมท่องเที่ยวของตัวเองได้จากการดูรายการท่องเที่ยวที่ชอบ
หรือได้จากข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่างๆ
2 วางเส้นทาง กำหนดเวลาเดินทาง (ตั้งกาน้ำร้อน) เมื่อมีจุดหมายปลายทางแล้ว
จากนั้นให้หาข้อมูลเพิ่มเพื่อใช้ในการวางเส้นทาง กำหนดวันเดินทาง โดยเริ่มจากการวางเส้นทางว่า
เราจะเดินทางแบบไหนอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราจะไปเที่ยวทะเลตรังโดยออกเดินทางจากกรุงเทพฯ
สามารถเดินทางไปได้ทั้ง ทางรถทัวร์ รถไฟ เครื่องบิน
ก็ให้เลือกการเดินทางที่เหมาะสมกับเวลา ค่าใช้จ่าย ความชอบของตัวเองที่สุด
และเมื่อกำหนดเส้นทางได้แล้ว
จะสามารถคำนวณเวลาที่เราจะใช้เดินทางตั้งแต่ไปจนกลับได้ ทำให้วางแผนในเรื่องจำนวนวันที่จะใช้ท่องเทียว
และคำนวณค่าใช้จ่ายโดยประมาณต่อได้
มาถึงขั้นตอนนี้แล้วผมจะนำโปรแกรมทัวร์ที่ผมเขียนขึ้นอย่างคร่าวๆเพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นเป็นตัวอย่าง
เพื่อนำไปประยุกต์ใช้สร้างโปรแกรมการเดินทางของตัวเอง
ท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คกางเต็นท์นอนเกาะสุดภาคตะวันออก
“เกาะกูด เกาะหมาก”
ทำภารกิจกางเต็นท์นอนชิวๆ
ปั่นจักรยานรอบเกาะหมาก ถ่ายรูปที่สุดเกาะกูด "แหลมอ่าวใหญ่"
ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 4 วัน 3 คืน
ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 4 วัน 3 คืน
วันที่1 จากสถานีขนส่งเอกมัย
– ตราด – ท่าเรือแหลมงอบ – เกาะหมาก
ออกเดินทางแต่เช้ามืดเพราะต้องใช้เวลาเดินทางไปตราดประมาณ 6 ชั่วโมง ถึงตราดหาข้าวเที่ยงกิน
นั่งรถสองแถวต่อไปท่าเรือ นั่งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะหมาก หาที่กางเต็นท์
ที่มีห้องน้ำให้ใช้ มองหาที่ฝากท้องใกล้ๆที่พัก กินข้าวเย็น พักผ่อน
วันที่2 เกาะหมาก
ลั่นลาปั่นจักรยานรอบเกาะหมาก แวะทำบุญที่วัดเกาะหมาก ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก
วันที่3 เกาะหมาก –
เกาะกูด
นั่งเรือเฟอร์รี่เดินทางต่อไปยังเกาะกูด
เข้าที่พักกางเต็นท์ กินข้าวกลางวัน เช่ามอเตอร์ไซท์ไปถ่ายรูปสุดเกาะที่แหลมอ่าวใหญ่ ซื้อซีฟู้ด
กลับมาที่พักเล่นน้ำ กินข้าวเย็น พักผ่อน
วันที่4 เกาะกูด – ตราด –
เอกมัย
ตื่นเช้าทำบุญใส่บาตร
หามื้อเช้าเก็บบรรยากาศภาพความทรงจำก่อนเดินทางกลับ
แวะซื้อของฝาก
เดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
“””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
โปรแกรมทัวร์นี้ เขียนขึ้นเพื่อสนองความต้องการของตัวผู้เขียนเองนะครับ
ด้วยความเป็นคนชอบเที่ยวทะเลเป็นทุนเดิม และเกาะกูด เกาะหมาก ก็เป็นเกาะท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่สุดภาคตะวันออกของไทยซึ่งผมเองอยากไปอยู่นานแล้ว
เลยเขียนโปรแกรมนี้ขึ้นมา
จากตัวอย่างโปรแกรมจะเห็นว่าในการเดินทางจะต้องใช้ทั้งรถทัวร์ในการเดินทางจาก
กทม.ไปถึงจังหวัดตราด ต่อรถสองแถวไปท่าเรือ แล้วยังต้องขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางไปยังเกาะอีก
ซึ่งข้อมูลในการเดินทางเหล่านี้ผู้เขียนล้วนได้มาจากการหาข้อมูลมาจากอินเทอร์เน็ตทั้งสิ้น
รวมถึงเรื่อง ตารางเวลาเดินทางของรถ เรือ และอัตราค่าโดยสาร
ทั้งนี้”การทราบข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวก่อนเดินทางนั้นจะเป็นประโยชน์ยิ่งกับผู้เดินทาง”
3 ประเมินค่าใช้จ่ายในการเดินทางล่วงหน้า
(เตรียมเมล็ดกาแฟ) เมื่อเรามีโปรแกรมทัวร์ของตัวเองแล้ว เรื่องต่อไปที่ต้องเตรียมก่อนการเดินทาง
คือเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางโดยประมาณ
จากโปรแกรมทัวร์ที่เราวางแผนการเดินทางไว้หมดแล้ว จะทำให้เห็นว่าในแต่ละวันเราจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ซึ่งหลักๆก็จะมี ค่าพาหนะในการเดินทาง ,ค่าบริการตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ(ตามกิจกรรมที่เราเลือกทำ) ,ค่าอาหาร ,ค่าที่พัก ,ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดส่วนตัว
เช่น ทำบุญ ซื้อของฝาก อยากกินขนม เป็นต้น
ตัวอย่างวิธีคิดค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยประมาณ
โดยผมจะเผื่อค่าใช้จ่ายในทุกส่วนไว้ให้มากกว่าความเป็นจริงนิดหน่อยนะครับ “
เผื่อไว้ ดีกว่าขาด ”
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณทริป
”เกาะกูด เกาะหมาก” 4 วัน 3 คืน
ค่าพาหนะในการเดินทาง
ค่ารถโดยสารไป-กลับ รถไปขนส่งเอกมัย+ ค่ารถทัวร์ (กรุงเทพฯ-ตราด) + รถสองแถวไปท่าเรือ =
1,000 บาท
ค่าเรือเฟอร์รี่ไป-กลับ
(ท่าเรือแหลมงอบ-เกาะหมาก-เกาะกูด) =
1,200 บาท
ค่าบริการตามจุดท่องเที่ยว ค่าเช่ารถจักรยาน/มอเตอร์ไซค์
(เกาะหมาก-เกาะกูด) = 500 บาท
ค่าอาหาร 200 บาท x 3 มื้อ x 4 วัน = 2,400 บาท
ค่าที่พัก ค่าบริการที่กางเต็นท์ 500 บาท x 3 คืน = 1,500 บาท
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 300 บาท x 4 วัน = 1,200 บาท
รวมค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทางโดยประมาณ = 7,800 บาท
“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
4 เตรียมตัวเดินทาง (น้ำเดือด) จะว่าด้วยเรื่อง“การเตรียมของลงกระเป๋าเดินทาง”โดยผมจะใช้หลัก 3 ข้อคือ
1 ใช้ของที่มีอยู่แล้ว
ซื้อใหม่ให้น้อยที่สุด (ประหยัด)
2 ของที่นำไปต้องมีประโยชน์ในการเดินทาง
น้ำหนักเบา และไม่กินพื้นที่ (ไม่สร้างภาระให้ตัวเอง)
3 นำของใช้จำเป็นไปให้ครบ (อย่าหวังพึ่งน้ำบ่อหน้า)
5 ออกเดินทาง (ชงกาแฟ) เก็บเกี่ยวเรื่องราว และความสุขระหว่างการเดินทาง (ละเมียดชิมกาแฟ)
6 เก็บภาพถ่ายและเรื่องราวมาแบ่งบัน (มีพลัง สดชื่น แจ่มใส)
โดยในทุกขั้นตอนที่ว่ามาทั้งหมดนี้
ส่วนสำคัญที่สุดคือ การเดินทาง เพราะระหว่างทางนั้นเราอาจจะเจอทั้งเรื่องดี
หรือเรื่องที่เราไม่พึงปรารถนา
ที่จะเข้ามาก็ได้ ขอแนะนำให้เปิดใจยอมรับว่า “ในการเดินทางไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
ถ้าอยากให้ดั้งใจในทุกสิ่งอย่างให้อยู่กับบ้านดูทีวีดีกว่า” และเมื่อคุณเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมแล้ว
ก็ออกผจญภัยกันได้เลย... และบทนี้ขอจบเรื่องราว
ของการเตรียมตัวเดินทางไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
ขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านเป็นอย่างสูง ที่ให้ความสนใจอ่านเรื่องราวของบทความมาจนถึงตรงนี้
โดยผู้เขียนหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้ จะมีประโยชน์กับผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย
และท้ายนี้ ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน “มีความสุข
สนุก ปลอดภัยทุกครั้งที่เดินทางท่องเที่ยวนะครับ”
“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
โปรดติดตามเรื่องราวการเดินทางบทต่อไปของ ลุงแบ็คแพ็ค
ใน”รักเลเรา”เที่ยวทะเลแบบสุขใจต้องใส่ใจในธรรมชาติ
อยากไปเที่ยวด้วยเลยครับคุณลุงรอชมภาพสวยๆอยู่นะครับ
ตอบลบอยากแพ็คกระเป๋าออกทะเลเลยครับลุง รอชมภาพสวยๆอยู่นะครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆครับ ไว้ลุงจะค่อยๆทยอยนำทั้งข้อมูลของการท่องเที่ยวทะเล และรีวิวแหล่่งทะเลไทยมาให้ได้ชมกันนะครับ
ตอบลบอ่านแล้วอยากไปเที่ยวเลย..ไม่อยากนั่งทำงานแล้ว..ไปๆๆไปเที่ยวเลกัน 555
ตอบลบ555 จัดไปครับ
ลบ